อาหารรสจัดให้โทษ
เห็นหน้ากล่องอาหารเขียนว่า “รสจัดจ้าน” เป็นคำเชิญชวนให้ซื้อ แสดงว่ามีคนชอบรสจัดจ้านกันอยู่มาก เมื่อซื้อก๋วยเตี๋ยว มักจะได้น้ำตาลและพริกป่นแถม แสดงว่าคนส่วนมากจะต้องเติมน้ำปลา น้ำตาล พริก เครื่องปรุงประจำโต๊ะในร้านอาหาร จะมีเครื่องปรุงรส ทำให้รสเข้มขึ้น ล้วนเป็นสิ่งอันตราย กินมากบ่อยๆ ชวนให้โรคต่างๆมาเยือน อันตรายแรกคือน้ำปลาและเกลือ กินมากทำให้ความดันเพิ่มสูง ถ้าเป็นโรคไขมันในเลือดสูง เป็นโรคหัวใจ อาจเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ไปหาหมอไม่ทัน ไม่ตายก็เป็นอัมพาต เกลือเป็นอันตรายต่อคนเป็นโรคไต ถ้าเป็นมากถึงต้องล้างไต จะต้องล้างทุกสองสามวันตลอดชีวิต เสียเงิน เสียเวลา ยุ่งยากต่อตัวเองและคนใกล้เคียง น้ำตาลที่ชอบกันทั่วไป มีอันตราย เริ่มจากทำให้ฟันผุ ปวดฟัน กินอาหารไม่อร่อย ต้องทรมานอย่างยิ่ง การรักษาจะต้องเจ็บ เสียเวลาและเสียเงินมาก ต่อจากฟันผุ จะเป็นโรคอ้วน ต่อไปจะเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งจะมีอาการโรคไตตามมา อาหารสำเร็จรูปส่วนมากหวานเกินพอดี คนขายบอกว่าทำตามความต้องการของลูกค้า แม้แต่ของที่แต่เดิมไม่ใส่น้ำตาล ปัจจุบันกลับเติมน้ำตาลกันจนเคยชิน สิ่งต่อไปที่ทำให้รสจัดจ้านคือพริก กับข้าวสำเร็จรูปประเภทแกงและผัดเผ็ด จะเผ็ดมากจนแสบปากแสบลิ้น ความเผ็ดขนาดนี้จะทำลายเยื่อหุ้มทางเดินอาหาร ทำให้เกิดโรคกระเพาะ โรคลำไส้ ซึ่งมีคนเป็นกันมาก ความจริงพริกมีประโยชน์ ทำให้อาหารหอมอร่อย ความเผ็ดเล็กน้อยช่วยชูรส พริกสดมีวิตามินซีสูง รวมทั้งวิตามินอื่นๆ พริกช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกาย กินอาหารเผ็ดเล็กน้อย ป้องกันโรคอ้วน แต่ถ้าเผ็ดมากกลับเป็นอันตราย ความอร่อยหรือไม่อร่อยเป็นความเคยชิน คนไทยเห็นว่าแกงเขียวหวานไก่เป็นอาหารอร่อย ต้องกินกับปลาเค็ม บ้านไหนทอดปลาเค็ม เพื่อนบ้านได้กลิ่นพาให้หิวข้าว ฝรั่งได้กลิ่นปลาเค็มทอด วิ่งออกมาถามว่าหนูตายที่ไหน ฝรั่งชอบกลิ่นเนยพาร์มีซาน คนไทยว่าเหม็นเหลือทน การได้กินบ่อยๆครั้งจนเคยชิน เมื่อได้กลิ่นจะอยากกิน กินแล้วอร่อย คนชอบรสจัดเป็นเพราะเคยชินกับรสจัด เมื่อไรกินอาหารรสอ่อนจะบอกว่าไม่อร่อย การปรับนิสัยให้กินอาหารรสอ่อน จึงต้องกินรสอ่อนบ่อยๆ นานเข้าจะชินและเมื่อกินอาหารรสจัดจ้านจะไม่ชอบ ถ้ารู้ตัวว่าชอบอาหารรสจัดจ้าน และต้องการรักษาสุขภาพ จะต้องฝึกลดความจัดจ้านลง เริ่มจากไม่เติมรสเมื่อกินอาหารนอกบ้าน เขาทำขายอยู่ได้ แปลว่าของเขาอร่อย ไม่ต้องเติมน้ำปลา น้ำตาล พริกป่นให้รสจัดมากขึ้นไปอีก อาหารตามธรรมชาติอร่อยอยู่แล้ว การปรุงกลิ่นรสในสมัยก่อน เป็นการบดบังความไม่สดของอาหาร เมื่อปรุงบ่อยๆกลายเป็นความเคยชิน เป็นวัฒนธรรมการกินอาหารของคนในชาติ สิ่งใดที่คนสมัยก่อนไม่ทำ เกิดนิยมกันในภายหลัง บางอย่างไม่ดีต่อสุขภาพ ถึงเวลาจะต้องแก้ไข เมื่อเลี้ยงลูกและเด็กเล็ก หัดให้กินอาหารรสอ่อน ให้กินข้าวให้อิ่มไว้ เด็กจะไม่อยากกินขนมและของหวาน เด็กที่ดื่มนมจืดเป็นประจำจะไม่ชอบนมหวาน บางโรงเรียนผสมนมหวานสำหรับเด็กเล็ก เด็กไม่ดื่มเพราะไม่ชอบ ครูบังคับให้ดื่ม เพราะครูเข้าใจว่านมมีประโยชน์ เด็กทุกคนควรได้ดื่ม บ้านที่เลี้ยงเด็กด้วยนมจืดต้องมีปัญหากับครู เคยถามคนต่างชาติว่าอาหารไทยมีลักษณะอย่างไร จะมีคำตอบสองแบบ คือหวาน กับเผ็ด ทำไมอาหารไทยจึงหวาน เพราะคนรุ่นใหม่กินหวานเกินไป เรื่องรสจัดเป็นการปรับแต่งของครอบครัวใหญ่ เงินค่ากับข้าวมีน้อย ต้องเลี้ยงคนหลายคน ทำให้รสจัดเข้าไว้ จะได้กินข้าวมากๆ กินกับแต่น้อย บางคนยิ่งเผ็ดยิ่งอร่อย กินไปเหงื่อไหลไป ไม่ต้องคำนึงถึงในท้องว่าจะระคายเคือง ไม่นานต้องเป็นโรคกระเพาะ คราวนี้จืดเท่าไรก็ทนได้ ไปกินอาหารตามร้าน ยังไม่ทันได้อาหาร น้ำจิ้มสารพัดมาถึงก่อน แต่ละคนได้น้ำจิ้มสามสี่ถ้วย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมของน้ำตาล เกลือและพริก ทำให้อาหารรสจัด บางคนตักน้ำจิ้มกินเล่น น่ากลัวไส้พัง ถ้าตัดน้ำจิ้มออกบ้าง อาหารอาจจะลดราคาลง ร้านอาหารเทน้ำจิ้มทิ้งร้านละมากๆทุกวัน เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ประหยัด และส่งเสริมให้คนกินอาหารที่เป็นอันตราย การเปลี่ยนนิสัยการกินเป็นเรื่องยาก ต้องมีความต้องการที่จะรักษาสุขภาพ คนส่วนมากคิดว่าขออร่อยไว้ก่อน เรื่องอันตรายยังมองไม่เห็น กว่าจะเกิดโรคอาจจะตายไปก่อนด้วยเหตุอื่น แต่ในเมื่อคนอายุยืนขึ้น การดูแลสุขภาพไม่ใช่เพื่อไม่ให้เกิดโรคในอนาคต แต่เป็นการรักษาความสบายของร่างกาย เมื่อร่างกายสบายดี อารมณ์จะดีได้ง่าย ชีวิตน่าสนุกมากขึ้น ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องหาหมอบ่อยๆ ใช้เวลาทำสิ่งที่สนุกได้เพิ่มขึ้น วิธีเลิกกินอาหารรสจัดง่ายๆ คือเริ่มจากไม่เติมซอส น้ำปลา น้ำตาล พริก อร่อยรสธรรมชาติของอาหาร ลองกินอาหารโดยไม่จิ้มน้ำจิ้ม เพิ่มผักสดเมื่อกินก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย น้ำยา เมื่อกินผักจิ้มน้ำพริก ใช้น้ำพริกน้อยลง เพิ่มผักให้มากขึ้น เมื่อมีผักดอง ตักผักเพิ่มขึ้น ไม่กินน้ำที่ดอง เพียงลดลงทีละน้อย อาหารยังอร่อยอยู่ นานๆเข้าจะอร่อยโดยไม่ต้องเติมรส ร้านอาหารส่วนมากจะปรุงรสกลางๆ ไม่จัดจ้าน แต่จะมีเครื่องปรุงรสให้เติมเอง ฝึกไม่เติมเครื่องปรุง ไม่นานจะไม่ต้องการเครื่องปรุง ตัดสิ่งเกะกะบนโต๊ะอาหารได้มาก หัดเด็กในบ้านให้กินอาหารรสอ่อน ใส่ผักในเครื่องปรุงอาหารเด็ก ต้มยำไม่ต้องเผ็ด ใช้รสเปรี้ยวชูรส จะไม่ต้องใช้น้ำตาล ใช้ผลไม้รสเปรี้ยวพวกมะนาว มะขาม มะม่วง แทนน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวเทียม กรดจากผลไม้เป็นกรดอ่อน ไม่เป็นอันตราย กรดเข้มข้นในน้ำส้มและน้ำมะนาวเทียม ทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ กินอาหารรสอ่อน ใช้หอมหัวใหญ่ หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย ปรุงกลิ่นรส ทำให้น้ำแกงอร่อยโดยไม่ต้องใช้ผงชูรส ใช้พริกพอให้หอมอร่อย ไม่ใช้มากจนร้อนปากร้อนท้อง หลีกเลี่ยงร้านอาหารรสจัดจ้าน เลือกของอร่อยตามธรรมชาติ อร่อยและสบาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น